เพราะว่าผู้สื่อข่าวชาวไทยของเราจะไม่ติดตามเรื่องนี้ไปจนจบด้วยตัวของพวกเขาเอง
ผู้สื่อข่าวของ BBC นั้นทำข่าวเรื่องเครื่อง ADE651 อย่างใกล้ชิด เพราะพวกเค้าเป็นห่วงชีวิตของทหารชาวอังกฤษที่ปฏิบัติงานในอิรัก ในขณะที่ผู้สื่อข่าวของ CNN ก็ติดตามเรื่องผู้อพยพชาวโรหิงยาอย่างถึงที่สุด เพราะพวกเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องของมนุษย์ธรรม แต่สำหรับนักข่าวชาวไทยแล้ว พวกเขาไม่สามารถคิดด้วยตัวเองเช่นนั้นได้ ว่าเรื่องใดสำคัญ หรือเป็นเรื่องที่ควรนำเสนอให้ชาวไทยและชาวโลกได้รับทราบ
พวกเขาเคยชินกับการรายงานเฉพาะสิ่งที่ได้รับแจ้งเท่านั้น พวกเขาคุ้นเคยกับการไปร่วมงานแถลงข่าวสักงานหนึ่ง หยิบขนมแจกฟรีกินสักชิ้นสองชิ้น รับเอกสาร PR ที่ผู้แถลงข่าวจัดเตรียมไว้ให้ จากนั้นก็กลับมาที่สำนักงานเพื่อลอกข่าวจากเอกสาร PR นั้นแบบทุกตัวอักษร การทำงานแบบ “มืออาชีพ” เป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งจากนักข่าวชาวไทย
ดังนั้น รัฐบาลและผู้นำทหาร จึงเพียงแค่คอยยืนยันซ้ำๆว่า เครื่องมือ GT200 นั้นสามารถใช้งานได้และไม่จำเป็นที่จะต้องมีการทดสอบ ในขณะที่เสียงโต้แย้งจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยอย่างอ.เจษฎา ก็จะกลายเป็นประโยคซ้ำซาก (แม้ว่าจะมีเหตุผล และเป็นความจริง) ที่สื่อได้เคยนำเสนอไปหมดแล้ว ไม่นานนัก สื่อมวลชนไทยก็จะหมดความสนใจที่จะนำเสนอเรื่องนี้อีกต่อไป พวกเขาก็จะหันกลับไปรายงานเรื่องที่ไร้สาระ แต่สามารถหาข่าวมาเสนอได้ง่ายๆทุกวัน เช่น เรื่องโกหกของนาธาน โอมาน เป็นต้น
นั่นคือสาเหตุที่ทำไมเราจึงไม่สามารถหยุดการ tweet, การเขียนบล็อก, โพสความเห็น, เขียนบทความ หรือแม้แต่พูดคุยกับคนอื่นๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ จนกว่าเราจะมั่นใจว่า เครื่องตรวจระเบิดลวงโลกนี้ จะไม่เป็นเพียงสิ่งที่ถูกลืมไปอย่างรวดเร็ว เหมือนที่เคยเกิดมาแล้วกับคดีตากใบ, การทำสงครามยาเสพย์ติด, กรณีโรหิงยา, เหตุสลดผับซานติก้า และเรื่องอื่นๆอีกมากมายในอดีต
เราไม่สามารถที่จะละเลยความผิดผลาดในการใช้ตรรกกะขนาดใหญ่ ที่มีผลกระทบถึงชีวิตคนมากมายขนาดนี้ได้ เราจำเป็นต้องเลือก ระหว่างการทำทุกวิถีทางเพื่อแก้ไขความผิดพลาดนี้ หรือจะยอมใช้ชีวิตต่อไปในฐานนะพลเมืองของประเทศที่ได้ชื่อว่า”ล้มเหลวซึ่งการใช้เหตุผลอย่างสิ้นเชิง”
เราไม่มีสิทธิที่จะยอมแพ้ เพราะนี่คือหน้าที่ของเราในฐานะมนุษยชน